วิธีการเลือกถุงยางอนามัย

ปัจจุบันถุงยางอนามัยมีหลายขนาดและรูปร่างที่มีก็หลากหลายมากขึ้น การหาขนาดถุงยางอนามัยที่เหมาะสมอาจเป็นเรื่องยุ่งยากเล็กน้อย แต่การเลือกถุงยางที่เหมาะสมจะช่วยให้ผู้ใช้มีสุขภาพทางเพศที่ดีและปลอดภัยยิ่งขึ้น ขนาดถุงยางอนามัยเป็นสิ่งสำคัญ ถุงยางอนามัยที่เล็กเกินไปเมื่อใช้อาจทำให้ถุงยางแตกหรือขาดขณะใช้งานได้ ถุงยางอนามัยที่ใหญ่เกินไปอาจทำให้หลุดได้ และถุงยางอนามัยที่ไม่พอดีอาจทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่ไหลลื่นขณะระหว่างมีเพศสัมพันธ์ได้ ถุงยางอนามัยเป็นส่วนสำคัญของสุขภาพทางเพศที่ดี ป้องกันการแพร่กระจายของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์และการติดเชื้อไวรัส นอกจากนี้ยังสามารถป้องกันการตั้งครรภ์โดยไม่ได้วางแผนได้อีกด้วย และการสวมถุงยางอนามัยที่เหมาะสมยังสามารถเพิ่มประสบการณ์การมีเพศสัมพันธ์ ทำให้การมีเพศสัมพันธ์สะดวกสบายและสนุกสนานยิ่งขึ้น

วิธีเลือกถุงยางอนามัยที่เหมาะสม โดยพิจารณาจากความยาวและเส้นรอบวง โดยการวัดความยาวจากโคนถึงปลาย และวัดขนาดของเสันรอบวง เพียงเท่านี้ก็สามารถทราบขนาดที่ถูกต้องแล้ว จากนั้นเราก็จะหาถุงยางอนามัยที่เหมาะกับตัวเราได้ โดยหาข้อมูลเล็กน้อยและสไตล์ที่ต้องการได้ โดยถุงยางอนามัยที่วางขายตามท้องตลาดทั่วไปมีขนาด(หน่วยเป็น มม.) เช่น 49, 50, 52, 54, 56 และอาจจะมีขนาดใหญ่กว่า 58 ก็มี แบรนด์ถุงยางอนามัยในปัจจุบันมีถุงยางอนามัยให้เลือกมากมาย และคนส่วนใหญ่ไม่น่าจะมีปัญหาในการหาถุงยางอนามัยที่พอดี ผู้ผลิตกำหนดขนาดถุงยางอนามัยทั้งด้านความยาวและความกว้างใว้ชัดเจนตามกล่องอยู่แล้ว

วัสดุถุงยางอนามัย

ถุงยางอนามัยไม่เพียง แต่มีรูปร่างและขนาดที่หลากหลายเท่านั้น แต่ยังมีวัสดุต่างๆ วัสดุอื่นๆที่ใช้ทำถุงยางอนามัย โดยสิ่งนี้ให้ “ความรู้สึก” ที่แตกต่างกันและยังมีประโยชน์หากมีถุงยางอนามัยบางชนิดที่คุณไม่สามารถสวมใส่ได้ (เช่น หากคุณแพ้น้ำยาง) วัสดุถุงยางอนามัยทั่วไป ได้แก่ น้ำยาง (latex) , โพลิยูรีเทน, โพลิไอโซพรีน ถุงยาง Latex ถุงยางอนามัยลาเท็กซ์เป็นถุงยางที่มีขายทั่วไปมากที่สุด มีคุณสมบัติความยืดหยุ่นสูงและบาง น้ำยางเป็นเกราะป้องกันสเปิร์ม แบคทีเรีย และไวรัสได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม แต่น้ำยางไม่ถ่ายเทความร้อน ซึ่งสามารถลดความรู้สึกเพลิดเพลินได้ ถุงยางอนามัยแบบลาเท็กซ์ควรหลีกเลี่ยงการใช้น้ำมันหรือสารหล่อลื่นที่เป็นน้ำมันเพราะน้ำมันจะทำลายน้ำยางซึ่งอาจทำให้ถุงยางอนามัยฉีกขาดได้ สารหล่อลื่นที่เป็นน้ำเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดเมื่อใช้ถุงยางอนามัยแบบลาเท็กซ์

ถุงยางโพลียูรีเทน (Polyurethane) โพลียูรีเทนเป็นวัสดุพลาสติกที่ใช้ในหลากหลายบริบท ตั้งแต่ฉนวนไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์และถุงยางอนามัย ถุงยางอนามัยโพลียูรีเทนมักจะบางกว่าถุงยางอนามัยลาเท็กซ์ และถ่ายเทความร้อนได้ดีกว่า ถุงยางอนามัยโพลียูรีเทนช่วยป้องกันเอชไอวีและแบคทีเรียติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม โพลียูรีเทนมีความยืดหยุ่นน้อยกว่าลาเท็กซ์ ซึ่งทำให้เปราะบางกว่าถุงยางลาเท็กซ์เล็กน้อย ถุงยางอนามัยโพลีไอโซพรีน (Polyisoprene) ถุงยางอนามัยโพลีไอโซพรีนทำขึ้นโดยไม่มีน้ำยาง สิ่งนี้ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีหากคุณหรือคู่ของคุณมีอาการแพ้ยางธรรมชาติ ซึ่งอาจเกิดขึ้นได้ โพลิไอโซพรีนมีความคล้ายคลึงกับลาเท็กซ์มาก ถุงยางอนามัยเหล่านี้หนากว่าโพลียูรีเทนเล็กน้อย แต่นุ่มกว่าและให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติกว่าลาเท็กซ์ ให้ความรู้สึกเป็นธรรมชาติระหว่างมีเพศสัมพันธ์

วิธีใส่ถุงยางอนามัย

• ถุงยางอนามัยจะมีประสิทธิภาพสูงสุดเมื่อใช้อย่างถูกต้อง
• ตรวจสอบวันหมดอายุบนบรรจุภัณฑ์ ถุงยางอนามัยที่เลยวันหมดอายุจะมีประสิทธิภาพน้อยกว่าและมีโอกาสแตกมากกว่า
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระดาษห่อหุ้มไม่บุบสลาย หากถุงยางอนามัยฉีกขาดหรือมีร่องรอยความเสียหาย ห้ามใช้และทิ้งทันที
• เปิดอย่างระมัดระวัง หลีกเลี่ยงการใช้ฟันหรือฉีกถุงยางแรงๆ เพราะจะทำให้ถุงยางฉีกขาดได้
• ตรวจสอบให้แน่ใจว่าขอบหันไปด้านนอกเพื่อให้สามารถม้วนถุงยางอนามัยเหนืออวัยวะเพศได้
• บีบปลายถุงยางอนามัยแล้ววางไว้บนหัวขององคชาตที่แข็งตัว การบีบส่วนปลายจะช่วยขจัดอากาศส่วนเกินและช่วยให้มีพื้นที่เพิ่มเติมที่ด้านบนเพื่อเก็บน้ำอสุจิ
• ม้วนถุงยางอนามัยลงไปที่โคนองคชาต
• หากถุงยางอนามัยไม่มีสารหล่อลื่น ให้ทาสารหล่อลื่นที่เป็นน้ำหรือซิลิกอนในปริมาณเล็กน้อยที่ด้านนอกของถุงยางอนามัย
• หลังจากหลั่งออกมาแล้ว ให้จับที่ฐานของถุงยางอนามัยในขณะที่ดึงออกมา การทำเช่นนี้จะป้องกันไม่ให้หลุดออก
• ค่อยๆ ถอดถุงยางอนามัยออก มัดปมที่ปลายเปิด แล้วทิ้งลงถังขยะ

 

แนะนำบทความ วิธีการเลือกใช้กระป๋อง Tenga