เรื่องทั่วไป
แฟนรักษาระยะห่างเกินไป
คงไม่ได้คิดไปเองหรือบางครั้งอาจเป็นการที่เราคิดไปเองก็ได้ ส่วนใหญ่เมื่อแฟนเปลี่ยนไปมักจะมีปัญหาเรื่องส่วนตัวหรือเครียดเรื่องงานและอีกเหตุผลหนึ่งที่เปลี่ยนไปคือเขาแอบชอบคนอื่นอยู่ ชอบทำตัวห่างเหินไม่สนใจไปไหนมาไหนคนเดียวบ่อยๆ ต้องระวังสำรวจแฟนตัวเองถ้าหากเขามีอะไรผิดปกติไปจากเดิมเริ่มทำตัวเฉยๆ กับเราหรือคุยกับเราน้อยลงไม่ค่อยมีอะไรกับเราเหมือนเมื่อก่อน ไปไหนด้วยกันน้อยลงไม่มีอะไรเหมือนเดิม คบกันหลายปีก็จริงก่อนหน้านี้ไม่นานทุกอย่างยังคงปกติอยู่เลย สงสัยทำไมเปลี่ยนไปเร็วขนาดนี้หรือมีอะไรที่ยังไม่รู้ทำไมมักทำตัวห่างเหินไม่สนใจกันแบบนี้ง่ายๆ ที่ผ่านมารักกันไม่มีความหมายหรือเขารอคนอื่นเข้ามาแทนเราตลอดเวลา ไม่อยากรักพักไม่เป็นท่าควรรู้เอาไว้ผู้ชายกับผู้หญิงมักมีนิสัยที่ต่างกันอยู่แล้วผู้หญิงบางคนอาจจะชอบพูดทุกเรื่องที่อยากระบายหรือรู้สึก และผู้หญิงบางคนมักจะไม่พูดเก็บความรู้สึกเก่งแต่ช่างสังเกต ส่วนผู้ชายมักมีโลกส่วนตัวสูงไม่ชอบให้ใครจุกจิกเรื่องส่วนตัวมากเกินไป ไม่ชอบให้ใครหึงหรือระแวงกันบ่อยๆ และผู้ชายบางคนไม่เจ้าชู้รักใครรักจริงก็มีอยู่จริงความรักหรือความสัมพันธ์ที่อยู่ด้วยกันไม่จำเป็นต้องแชร์ทุกเรื่องทุกอย่างให้อีกฝ่ายรับรู้ไปทุกเรื่องหรอก หากระแวงหรือจุกจิกมากไปรักพังไม่เป็นท่ามากกว่าเดิมอีกต้องรักษาระยะห่างเอาไว้บ้าง ทำตัวให้มีค่าให้เขารักมากกว่าเดิม ยิ่งรู้ว่าเขาเปลี่ยนไป ทั้งๆ ที่เราไม่ได้ทำอะไรผิด และอย่ารู้สึกผิดว่าเราทำอะไรผิดอย่าเปลี่ยนตัวเองเกินไปลองดูให้ดีว่าเขาเปลี่ยนไปเพราะอะไร สืบให้รู้ว่าเขามีใครอื่นหรือเปล่า หรือเขากำลังแอบชอบใครสักคนยู่ เขาพยายามจีบใครสักคนจนไม่มีเวลาใส่ใจคุณ ก็ต้องอย่าไปบ่นให้เงียบๆ แล้วสังเกตอาการและพฤติกรรมเขาไว้หากรู้สึกว่าไม่ท่าไม่ดีแล้วจึงค่อยงัดเหตุผลและอาการเปลี่ยนไปพฤติกรรมต่างๆ ลองมาพูดคุยกับเขาดูหากยังไม่ดีขึ้นหรือเขามีอะไรปิดบังคุณต้องมีสติอย่าเสียใจถ้ายังไม่รู้ความจริง ลองเรียกร้องความสนใจดูบ้าง อาจจะแต่งตัวสไตล์ใหม่ๆ แต่งตัวให้ดูดีขึ้นมีความเปลี่ยนแปลงในตัวเองที่ดีขึ้นลองดูว่าเขาจะสนใจเราไหมหรือทำอาหารอร่อยๆ ของโปรดที่เขาชอบทาน พาไปเที่ยวพักผ่อนหรือลองทำตัวนิ่งๆ ไม่สนใจกลับบ้าง ให้เขารู้ว่าคุณก็เริ่มทนไม่ไหวกับพฤติกรรมของเขาเหมือนกัน อยากรู้ความจริงก็ลองให้จ้องตามองตาเขานานๆ เวลาคุยกันหากเขาหลบสายตาไม่กล้าพูดหรือพูดแต่ไม่มองหน้าไม่มองตาคุณก็แปลว่าเขามีอะไรปิดบังแต่ถ้าเขาพูดแบบมีเหตุผลว่าทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปอาจเพราะเครียดจากหน้าที่การงานของเขา หรือเรื่องครอบครัวของเขา อาการป่วย อะไรก็ตาม บางทีการพูดแบบมีเหตุผลตรงไปตรงมา และเขามองตาคุณด้วยแล้วก็นั่นแปลว่าเขาน่าจะพูดความจริงมากกว่าโกหกแต่อย่าเชื่อเต็มร้อยนะ หรือหากช่วงนี้เขาตีสนิทกับใครมากเป็นพิเศษต้องให้สังเกตดีๆ ยิ่งเป็นเพศตรงข้ามด้วยแล้วก็จริงๆ ใครก็พูดได้ว่าไม่มีอะไรเป็นเพื่อนกันเฉยๆ แต่เขาคุยกันมากผิดปกติ เขาคุยกับเราน้อยลง เขาเปลี่ยนแปลงตัวเองมากเกินไป แต่งตัวดูดีขึ้น ออกจากบ้านทุกครั้งเขาไปคนเดียวบ่อยขึ้นปล่อยให้คนทานข้าวอยู่บ้านคนเดียวบ่อยๆ แบบนี้เขาสนิทกับเพื่อนเพศตรงข้ามคนไหนมากเกินไปต้องระวังและสืบให้รู้ความจริงด่วน และให้คุณพยายามทุกสิ่งโดยไม่หวังผลให้ทำด้วยความเต็มใจถึงจะรู้ว่าเขาเปลี่ยนไปก็ตามอาจจะทำให้คุณรู้อะไรมากขึ้นก็ได้ พยายามทำทุกอย่างให้เขาประทับใจ ช่วยเหลือได้แม้กระทั่งเล็กๆ น้อยๆ ก็ทำไปเถอะลองดูว่าเขาดีใจหรือประทับใจอะไรไหมหรือนิ่งๆ ไม่ขอบคุณอะไรเลย แบบนี้ก็ต้องทำใจไว้ครึ่งหนึ่งดีกว่าเผื่อใจไว้เยอะๆ อย่าหวังว่าเขาจะรักเราเหมือนเดิม ความรักครั้งแรกกับปัจจุบันไม่เหมือนเดิมหรอกไม่ว่าจะรักกันมากี่ปีก็ตาม ใจคนเปลี่ยนได้ แต่ถ้าเขารักเราจริงๆ ถึงไปแอบชอบคนอื่นเดี๋ยวเดียวความรักที่มีให้กันยังไงก็ยังคงหนุนนำให้กลับมารักกันอีกครั้ง แต่ต้องรอให้เขาตาสว่างมากขึ้น เราไม่จำเป็นต้องเป็นฝ่ายพูดเยอะ ถ้าคนไม่ใช่คู่กันจริงๆ ยื้อเท่าไหร่ก็คงไม่มีอะไรดีขึ้นมาหรอก แต่ถ้าเป็นคู่กันจริงๆ เชื่อสิเขามีวันกลับมารักและเข้าใจเอาอกเอาใจอีกครั้งแน่นอน ถึงเขาจะเก็บอาการได้ดีมาก จนดูไม่ออกว่าเขามีอะไรปิดบังไว้ เราก็ควรเก็บอาการไม่ให้รู้ว่าคุณรู้ความลับที่เขากำลังโกหกอยู่จะได้มัดตัวเขาได้แน่นขึ้นเมื่อรู้ความจริงที่ชัดเจนมากกว่าเดิมแกล้งทำเป็นมองไม่เห็นบ้าง อะไรๆ จะได้ชัดเจนเมื่อถึงเวลาของมัน
Comments are closed