เรื่องทั่วไป
ไม่ได้พูดจากความจริง สร้างภาพให้ตัวเองดูดี แต่ละคนอาจมีเหตุผล
จริงๆ แล้วทุกคนมีเรื่องที่ปกปิดไว้อยู่แล้ว ขึ้นอยู่กับว่าเขาจะเลือกพูดหรือไม่พูดเท่านั้นเอง อย่าไปเจาะจงว่าเขาเป็นคนโกหกเลย บางทีเขาอาจไม่ได้มีเจตนาโกหกเป็นนิสัยก็ได้ แต่เรื่องบางเรื่องจำเป็นที่เขาจะต้องเบี่ยงเบน หรือไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดเท่านั้นเอง เข้าใจว่าทุกคนให้คำนิยามสำหรับคำว่าโกหก ก็คือคนพูดไม่จริง แต่เรื่องขึ้นมา หลีกเลี่ยงที่จะไม่พูด หรือว่าพูดไม่หมด ไม่ได้พูดจากความจริง เป็นการโกหก จริงๆ ก็เป็นแบบนั้นเสมอมา แต่มุมมองของแต่ละคนที่เขาหลีกเลี่ยงเนื้อหาของความจริงของตัวเอง อาจไม่อยากพูดเรื่องทั้งหมดให้คนอื่นรู้ก็ได้ อาจจะพูดความจริงกับคนที่เขาไว้ใจก็ได้ ไม่ได้แปลว่าทุกคนจะต้องรู้ความจริงกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเขาทั้งหมด หรือเขาไม่จำเป็นต้องบอกทุกคนหรอกเกี่ยวกับประวัติหรือรายละเอียดของเขาทั้งหมดให้ฟัง คนที่คอยถามเยอะแยะเกี่ยวกับตัวคนอื่น ซึ่งเป็นคนไม่มีมารยาทเสียเลย อย่านับว่าเป็นผู้ใหญ่ มีอายุมากกว่า หรือเป็นการพูดคุยตามมารยาทของสังคมเลยถือว่าถามเกี่ยวกับตัวเขาได้ทุกเรื่อง แบบนี้คิดใหม่นะ บางคนอาจไม่ชอบให้ใครลุกล้ำความเป็นส่วนตัว แต่โลกแห่งความเป็นจริง ทุกมุม ทุกพื้นที่มักจะมีคนมารยาทเสียอยากรู้เรื่องราวของคนอื่นไม่ทุกเรื่องแม้กระทั้งเรื่องส่วนตัวก็ไว้เว้น ได้นอกจากเพื่อน ญาติ คนสนิทแล้ว แม่ค้าต่างๆ ก็เถอะอย่าหวังเลยว่าจะได้นั่งอย่างเงียบๆ สงบๆ อยู่กับตัวเอง แม่ค้า ไม่ทุกคนเสมอไปนะ ที่ชวนคุยสารพัดเรื่อง ก็ไม่ว่าหรอกถ้าไม่ใช่ซักเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัว ทำงานอะไร อยู่แถวไหน เป็นใครมาจากไหน แน่นอนว่ามีหลายคนที่ บางทีหลายคนก็รำคาญคนพวกนี้และไม่เข้าใจว่าจะยุ่งเรื่องคนอื่นไปทำไม อยากคุยเป็นมารยาทคุยเรื่องอื่น เรื่องที่เป็นกระแสอยู่ดีกว่าไหม แล้วการที่ถามแบบนี้กับทุกคนใช่ว่าทุกคนจะสบายใจตอบความจริงเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวนะ บางคนก็อาจไม่ได้พูดความจริงทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องส่วนตัวหรอก อาจจะสร้างภาพนิดหน่อยให้ตัวเองดูดีมีฐานะ ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วอาจไม่ได้เป็นแบบนั้น จริงๆ แล้ว หลายคนอาจมีความคิดที่ว่าถ้าหากพูดความจริงออกไปแล้วจะเกิดความเสียหาย หรือถ้าพูดเรื่องบางเรื่องที่ไม่จริงบ้างจะทำให้สถานการณ์ดีขึ้นก็ได้ แบบนี้ก็ไม่ผิดหรอก หรือพูดความจริงบ้างบางส่วนและบางส่วนก็ไม่จริงบาง ก็เป็นการโกหกแต่จะทำยังไงได้เพราะนั่นเป็นเรื่องส่วนตัวเขา เขาอยากจะพูดให้ดูดีแค่ไหนก็ได้ คนที่ผิดคือคนที่อยากรู้อยากเห็นเรื่องคนอื่นแล้วเอาไปนินทาจนเกิดเรื่องใช่ว่าคนที่โกหกจะไม่รู้สึกผิดหรือละอายต่อบาปหรือคำพูดที่พูดออกไปเป็นการโกหก ตัวเองก็รู้ดีแต่ที่พูดออกไปอย่างนั้นเพราะกลัวว่าพูดความจริงออกไปแล้วจะส่งผลกระทบในอีกหลายๆ เรื่องและกลัวว่าคนในสังคมจะไม่ยอมรับถ้าหากรู้ที่มาที่ไปของตัวเอง คนที่โกหก และพูดไม่จริงมักจะระแวงคิดวกวนอยู่กับสิ่งที่ตัวเองพูดไม่จริง ก็คือการโกหกซ้ำไปซ้ำมากับหลายๆ คน ที่เข้ามาคุย เข้ามาถามเชื่อเถอะว่า บางทีอาจตอบไม่เหมือนกันทุกครั้งก็ได้ ใครจะจำได้ เพราะไม่ใช่เรื่องจริง แต่ใครอยากจะโกหก เพราะตัวเองรู้ดีอยู่แล้วว่าโกหกยังไงก็คือคนที่พูดโกหกอยู่อย่างนั้น ทั้งสำนึกผิดและไม่รู้จะกลับไปแก้ไขยังไง เพราะก็กลัวพูดความจริงแล้วกระทบหลายๆ เรื่องทำให้อยู่ในสังคมไม่เป็นสุขและกลัวคนรอบข้างรู้ความจริงอาจไม่เหมือนเดิม ฉะนั้นต้องเข้าใจว่าบางคนเขาอาจโกหกเรื่องเล็กเรื่องน้อยเกี่ยวกับตัวเองบ้าง ไม่ใช่เรื่องใหญ่ถ้าเขาไม่ได้โกหกเพราะทำความผิดอย่างไปฆ่าคน ฆ่าสัตว์ ทำความผิดร้ายแรงอะไรก็คงไม่บาปหรือเป็นการโกหกที่ไม่ร้ายแรงมากนัก พื้นฐานของคนเรามักอยากรู้อยากเห็นเรื่องของคนอื่น ตัดสินใจแทนคนอื่น ตัดสินเขาเพราะได้ยินมาว่าเป็นแบบนั้น เป็นแบบนี้ คนอื่นอาจบอกว่า เด็กคนนี้นิสัยไม่ดี ไปบอกผู้ใหญ่หลายๆ คนปากต่อปากกันสนุกปากไม่ยั้งคิดกันเลย ในสายตาผู้ใหญ่เด็กคนนี้กลายเป็นเด็กนิสัยไม่ดีโดยที่ผู้ใหญ่พวกนั้นก็ไม่ได้รู้ความจริงเลยเกี่ยวกับตัวเด็กคนนั้นว่าเขาทำอะไรทำไมเขาถึงนิสัยไม่ดี ไม่ใช่ไปตัดสินใจว่าเขาเป็นเด็กนิสัยไม่ดีเพราะอีกคนบอกว่าเด็กคนนี้นิสัยไม่ดี สังคมก็เป็นแบบนี้ ทำให้ความเข้าบิดเบี้ยวไปทุกวัน คนดีถูกมองว่าไม่ดี คนดีบางคนทำดีถูกมองว่าสร้างภาพ ทำอะไรก็ผิด ถ้าเป็นคนนิสัยเสียชอบมองคนในแง่ลบยังไงก็เป็นแบบนั้น ทางเลือกง่ายๆ ถ้าไม่อยากโกหกแล้วโกหกเล่า ก็ควรจะคบคนที่จริงใจแล้วกล้าเปิดใจเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ถึงจะพูดความจริงกับคนที่ชอบนินทาเรา ยังไงเขาก็เป็นคนเดิมที่มองเราในแง่ลบอยู่แบบนั้น และโทษของการโกหกคือทำให้สับสนอยู่บ่อยๆ ว่าครั้งที่แล้วเคยพูดไปว่าอย่างไรกับคนก่อน หนักเข้ามักจะจำไม่ได้แต่การโกหก อย่างที่บอก อยู่ที่เจตนาหรือไม่เจตนาถ้าเป็นเรื่องส่วนตัวของเรา เรามีสิทธ์ที่จะไม่พูดเรื่องที่เกี่ยวกับตัวเราทั้งหมดให้คนอื่นรู้ก็ได้
Comments are closed